วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

บันทึกการเดินทาง ตอนที่ 7 ( Budapest )


นั่งรถจาก bratislava มา3ชั่วโมงกว่า เนื่องจากพิษรถติดบนhigh way จึงใช้เวลานานกว่าที่คิดครับ ในที่สุดก็เข้าสู่ budapest จนได้
budapest เป็นเมืองหลวงของประเทศฮังการี และเป็นศูนย์กลางการปกครอง อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม และการคมนาคมขนส่งของประเทศ มีประชากรมากกว่า 1.7 ล้านคน มีจำนวนลดลงจากกลางทศวรรษ 1980 ซึ่งมีประชากรถึง 2.07 ล้านคน


บูดาเปสต์กลายเป็นเมืองเดี่ยวที่มีอาณาเขตครอบคลุมทั้ง 2 ฝั่งของแม่น้ำดานูบหลังจากการรวมกันในพ.ศ. 2416 (ค.ศ. 1873) ของเมืองทางฝั่งขวา ได้แก่ เมืองBuda และÓbuda เข้ากับเมืองPest ทางฝั่งซ้าย (ฝั่งตะวันออก)
ที่แรกที่เราไปคือที่นี่ครับ  Fishermen’s Bastion สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1895 จุดประสงค์ในตอนแรกนั้นต้องการให้เป็นหอป้องกันภัย เคยโดนทำลายในช่วงสงครามโลกและสร้างขึ้นใหม่ ปัจจุบันเป็นจุดที่ใช้ชมวิวจาก Castle District มองไปยังแม่น้ำ Danube และฝั่ง Pest


Matthias Church


Parliament อาคารรัฐสภาของประเทศฮังการี ตั้งอยู่บนฝั่ง Pest มองเห็นได้ชัดเจนจากฝั่ง Buda
สร้างระหว่างปี ค.ศ. 1885-1902 ความยาว 268 m(880 ft), ความสูง 96 m (315 ft) จำนวนห้อง 691 ห้อง ตัวอาคาร ground floor สร้างในแบบ Baroque







รูปปั้นของ St Stephen (István) กษัตริย์องค์แรกของประเทศฮังการีที่เป็นคริสเตียน
ผู้นำความเจริญรุ่งเรืองมากมายมาสู่ประเทศ แต่ตัดสินใจนำประเทศเข้าสู่นิกายคาโธลิก จึงเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ อนุสรณ์นี้สร้างในปี ค.ศ. 1906


Matthias Church






สะพาน Chain Bridge  สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1839-1849 เชื่อมระหว่าง Buda และ Pest
ออกแบบโดยชาวอังกฤษชื่อ William Tierney Clark ความยาว 380 เมตร (1,250 ft)



Hero’s Square และ Millennium Monument ลานที่ตั้งแห่งอนุสรณ์สถานบุคคลสำคัญ ของประเทศฮังการี มีทั้งรูปปั้น กษัตริย์ นักการเมือง นักการปกครอง ฯลฯ สร้างเสร็จในปี ค.ศ.1929


เดินเล่นในเมืองจนเริ่มหิวครับ ค่ำนี้คุณอ้อมพาไปทานอาหารไทยอีกครั้งครับ เจ้าของร้านเป็นคนลาวครับ อาหารอร่ยมากความรู้สึกเหมือนเมืองไทยทีเดียว กินจนอิ่มจัด

สะพาน Chain Bridge ยามค่ำคืน

หลังจากทานเสร็จ คุณอ้อมก็พามาเดินริมฝั่งดานูป ชมสองฝั่งแม่น้ำยามค่ำคืนครับ





คืนนี้พักที่ Bo 18 hotel ครับ เที่ยวเหนื่อยเหมือนเดิม นอนพักดีกว่า ตอนต่อไปพรุ่งนี้เราจะไปเวียนนากันครับ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น